โดยปกติเมื่อนายจ้างตกลงรับลูกจ้างเข้าทำงานแล้ว นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่ได้กระทำความผิดไม่ได้ หากนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่ได้กระทำความ ผิด นอกจากลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับเงินชดเชยจากนาย จ้างแลว ลูกจ้างยังอาจใช้สิทธิฟ้องนายจ้างต่อศาลแรง งานเรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้อีกด้วย
แต่หากนายจ้างมีสถานประกอบการหลายแห่งหรือเรียกง่าย ๆ ว่ามีหลายสาขา และนายจ้างมีความจำเป็นต้องหยุด ประกอบกิจการบางสาขา นายจ้างอาจขอให้ลูกจ้างไป ปฏิบัติงานยังสาขาที่เปิดกิจการอยู่ แม้ลูกจ้างจะต้องลำบากในการเดินทางไกลกว่าสถานที่ทำงานเดิม ลูกจ้างก็ต้องทน หากลูกจ้างไม่ยอมทำตามคำ สั่งนายจ้าง โดยไม่ยอมไปทำงานยังสาขาอื่นอันเป็น สถานที่ทำงานใหม่ นายจ้างอาจใช้สิทธิเลิกจ้างได้ และกรณีดังกล่าว นายจ้างอาจไม่ ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างด้วย ดังที่ศาลฎีกาได้ วินิจฉัยตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 3198-3199/2551 ว่า การที่นายจ้างสั่งให้ลูกจ้างทั้งแปดสิบสองคน ซึ่ง เป็นลูกจ้างทำงานอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรีไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากสถานที่ทำงานที่จังหวัดปราจีนหมดสัญญาเช่า และนายจ้างเสนอให้เงินช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้านแก่ ลูกจ้างคนละเดือนละ 1,000 บาท โดย การทำงานที่ใหม่มีตำแหน่งและค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดิม แต่ ลูกจ้างกลับไม่ตอบรับนายจ้างและเมื่อถึงกำหนดเวลา ลูกจ้าง กลับไม่ไปปฏิบัติยังสถานที่ทำงานแห่งใหม่ตามที่นายจ้างมีคำสั่ง กรณีดังกล่าวถือได้ว่าลูกจ้างละทิ้งหน้าที่การงาน และหากลูกจ้างไม่ไปทำงานเกิน 3 วัน ย่อมเป็นกรณีที่ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างด้วยเหตุดังกล่าว นายจ้างจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และ ไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมด้วย
Nitirathphum Law Office