ผมได้ฟังข่าวอยู่เป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องพระภิกษุสงฆ์เสพเมถุนกับสีกา ล่าสุดที่ได้ยินครับมีพระภิกษุถูกยิงมรณภาพ แรกเริ่มฟังก็คิดเลยว่าใครกันนะใจบาปฆ่าได้แม้กระทั่งพระสงฆ์ชั่งบาปจริงๆ แต่พอติดตามข่าว คิดวิเคราะห์เหตุการณ์ก็พอจะเริ่มจับใจความโดยย่อได้ว่า (ในส่วนนี้ผมขอบอกเป็นชื่อย่อแล้วกันครับเนื่องจากศาลยังมิได้มีการตัดสิน) เรื่องคือ นาย ป. ผู้กระทำความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ได้อยู่กินกับ น.ส. ล. มานานกว่า 20 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 2 มีอาชีพเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา ที่ผ่านมานั้นในช่วงเวลากลางคืน จะไปนอนเฝ้าอยู่ที่บ่อเลี้ยงกุ้ง บ่อเลี้ยงปลา ไม่เคยทราบมาก่อนว่าภรรยาของตนแอบมีชู้ จนมาระยะหลังได้เริ่มระแคะระคายจากข่าวจากปากของชาวบ้านมาบ้างว่า มีพระเป็นหมอทำเสน่ห์ ทำไสยศาสตร์ ได้แอบเข้ามาพบกับภรรยาของของ นาย ป. ในทางชู้สาวอยู่บ่อยครั้ง เวลากลางคืนจะมารับตัว น.ส.ล. ออกไปนอกบ้าน เมื่อทราบเรื่องใหม่ๆ ก็บอกให้เลิกทำพฤติกรรมนั้นเสีย แต่ก็ยังไม่ยอมเลิกรา จนในวันเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำขณะที่กำลังทำงานเฝ้าอยู่ในบ่อเลี้ยงกุ้ง นาย ป. รู้สึกหิวข้าวจึงได้เดินกลับจากบ่อกุ้งเข้ามายังบ้านพัก พร้อมกับได้ถืออาวุธปืนลูกซอง ที่ใช้ถือติดตัวในการเฝ้าทรัพย์สินอยู่เป็นประจำมาด้วย เนื่องจากในพื้นที่มีโจรขโมยชุกชุม และไม่ได้ตั้งใจจะมาก่อเหตุ แต่เมื่อมาถึงบ้านก็ได้พบกับพระ ม. ได้ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุพอดี นาย ป. จึงได้ร้องตะโกนถามพระ ม. ว่า "จะไปไหน" โดยที่พระ ม. กลับพูดจาแบบนักเลงใส่ตนว่า "กูจะมาหาเมีย" นาย ป. ถามว่าจะมารับเมียกูไปไหน พระ ม. ตอบว่า "เมียมึง ก็เหมือนเมียกู" จึงทำให้รู้สึกเจ็บปวด และเกิดบันดาลโทสะอย่างมาก จึงได้ใช้อาวุธปืนที่ถือติดมือมายิงเข้าใส่ 1 นัด จากนั้นจึงได้หลบหนีออกจากบ้านไปและกลับมามอบตัวกลับตำรวจ
จากข่าวดังกล่าวผมก็มานั่งคิดแบบงงๆว่า อ้าว! สรุปว่าใครเป็นคนที่ผิดจริงๆกันแน่ เรามาดูกันเป็นรายบุคคลและรายองค์กันเลยครับ
นาย ป. เห็นได้ว่าเป็นสามีของ น.ส. ล. แม้จะไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ตามแต่เมื่ออยู่กินฉันสามีภรรยาจนมีบุตรด้วยกันถึงสองคนแล้ว นาย ป. ย่อมเป็นสามีของนางสาว ล. โดยพฤตินัย มีสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของตนในฐานะสามี เมื่อมีบุคคลอื่นมายุ่งเกี่ยวหรือข้องแวะกับเมียตัวเอง นาย ป. ก็สามารถปกป้องสิทธิของตนเองได้ เมื่อพระ ม. เข้ามายุ่งเกี่ยวกับ นางสาว ล. เมียของตน ในลักษณะชู้สาวและยังพูดจาในลักษณะอันเป็นการเหยียดหยามและข่มเหงทางจิตใจกันอีก จึงทำให้นาย ป. เกิดบันดานโทสะใช้ปืนลูกซองที่พกติดตัวยิงพระ ม. หนึ่งนัดเสียชีวิต ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72 บัญญัติว่า “ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้“ การที่นาย ป. ใช่ปืนยิงนายพระ ม. ก็เนื่องจาก พระ ม. พูดจาแบบนักเลงใส่ตนว่า "กูจะมาหาเมีย" นาย ป. ถามว่าจะมารับเมียกูไปไหน พระ ม. ตอบว่า "เมียมึง ก็เหมือนเมียกู" ถือว่าเป็นการข่มเหงจิตใจอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม แม้ว่านาย ป. กัน นางสาว ล. จะไม่ได้เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายแต่ก็อยู่กินกันมากว่า 20 ปี จนมีบุตรด้วยกันถึง 2 คน ย่อมมีความรักใคร่และห่วงแหน การที่นาย ป. ใช่ปืนลูกซองที่ปกติดตัวเพื่อป้องกันทรัพย์อยู่เป็นประจำยิง พระ ม. ไปหนึ่งนัดในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น การกระทำของนาย ป. จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงทางจิตใจอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมศาลสามารถใช้ดุลพินิจจะลงโทษนาย ป.สำหรับความผิดฐานฆ่าคนตายเพียงใดก็ได้ อ้างอิงตามคำพิพากษาฎีกาที่ 249/2515 ในส่วนตัวของผมไม่ลงโทษน่าจะดีกว่า
นางสาว ล. ผิดแน่ๆคือ ศีลธรรม ในส่วนอื่นไม่ขอพูดถึง
พระ ม. อันดับแรกเลยคือผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรงเป็นถึงพระสงฆ์ มาทำพฤติกรรมในทางไม่สมควร เป็นการทำลายศาสนาอย่างร้ายแรง ในส่วนที่สอง การที่พระเสพเมถุนเป็นการกระทำผิดวินัยสงฆ์มีโทษทางวินัยต้อง ปราชิก และต้องสึกจากการเป็นพระสงฆ์ ที่นี้มาเรามาดูเกี่ยวกับโทษทางอาญากันบ้าง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” จากบทบัญญัตินี้ผมขอกล่าวรวมไปถึงพระสงฆ์ที่เสพเมถุนกับสีกาหรือชายหรือกับสัตว์ไปคราวเดียวกันเลย ว่าพระสงฆ์เหล่านี้จะมีความผิดทางอาญาอย่างไร จากกฎหมายมาตรา 206 เป็นการเอาโทษกับบุคคลที่กระทำการอันมิสมควรกับหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของผู้คนทั่วไป การกระทำด้วยประการใดๆ หมายความว่าการกระทำอันมิสมควรไปในทางเหยียดหยามศาสนา เช่นการกระทำของพระสงฆ์ที่เสพเมถุนผมถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและเป็นการเหยียดหยามศาสนาแล้ว แต่เราต้องมาดูองค์ประกอบของความผิด มาตรา 206 ว่าการกระทำอันมิสมควรนั้นต้องเป็นการกระทำต่อวัตถุหรือสถานที่อันสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่บุคคล แต่ในกรณีที่พระสงฆ์เสพเมถุนนั้นแม้จะเป็นการกระทำอันไม่สมควรต่อศาสนาแต่ไม่ได้กระทำต่อวัตถุหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพ ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบความผิดของกฎหมาย จึงไม่สามารถเอาผิดทางอาญากับพระที่เสพเมถุนได้แม้ว่าจะเป็นการทำลายศาสนาอย่างร้ายแรงก็ตาม แต่ถ้าหากเช่นกรณีพระสงฆ์นั้นเสพเมถุนกันในโบสถ์หรือในวิหารก็น่าจะเข้าองค์ประกอบความผิดของกฎหมาย แม้ว่าจะมิได้กระทำกับวัตถุหรือสถานที่โดยตรงแต่หากตีเจตนารมณ์ของกฎหมายน่าจะหมายความรวมถึงการกระทำภายในหรือบริเวณสถานที่อันเป็นที่เคารพด้วย น่าจะเอาผิดทางกฎหมายได้บ้าง ในส่วนกฎหมายยังไม่มีการบัญญัติไว้โดยตรงว่าการเสพเมถุนของพระสงฆ์เป็นความผิดอาญา จึงมีโทษทางวินัยเท่านั้น
ผมได้ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วก็ไม่มีกฎหมายใดที่จะเอาผิดกับพระสงฆ์ประเภทนี้ได้บ้าง จนมาพบกับข้อความที่กล่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของ น.พ.จักธรรม ว่าได้เคยมีการเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเอาผิดทางอาญากับพระสงฆ์และคู่นอนพระสงฆ์ เนื่องจากเป็นการทำลายศาสนา สร้างความเสื่อมเสียให้แก่คณะสงฆ์แล้วยังสร้างความเสื่อมเสียให้แก่พุทธศาสนาด้วย โดยก่อนหน้านี้สำนักงานพระพุทธศาสนาได้ปรึกษากับทั้งภาครัฐและเอกชนเสนอให้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) โดยมีการเสนอให้มีบทลงโทษทางอาญากับพระที่เสพเมถุนและคู่นอน แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว ผมก็ขอให้มีร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเอาผิดทางอาญากับพระสงฆ์และคู่นอนพระสงฆ์เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติจริงเถอะครับ
สิรวิญช์ แสนเกตุ
When you are considering a diet plan, if it is something
you can't be able to sustain search for another one.
Also a fantastic tip for preparing healthy food choices is some healthy cook books
and pick some recipes that suit your needs and take a moment out from the day and require a proactive role in preparing delicious healthy meals.
all that, so now me also commenting here.
and sources back to your webpage? My website is in the very same area of interest
as yours and my users would truly benefit from some of the information you
present here. Please let me know if this ok with you.
Thank you!
video-game themed trend pieces for publicity in the
past. Movoto counted the Facebook likes received by the three
consoles of the current generation _ PlayStation four, Wii U, Xbox A
single. By this measure, the Xbox One comes out ahead overall,
and in total quantity of states "won" _ 22 to the PS4's 19.
The Wii U did not win any states, coming in a distant third
in all of them. Sort of like Ross Perot. facebook likes free online, http://www.beasts-of-america.com/beasts/groups/wechat-app-pushes-into-social-media-advertising-and-marketing-by-way-of-qr-codes,
well great to be correct, it is. Becoming in a position to
hack someone's Facebook password by just pasting some code into your browser sounds way too
uncomplicated and should really signal that this is a scam.
facebook likes buy targeted (http://wiki.freshconnections.nl/)
who had brands on their official _like_ list. The research found that Facebook members who like a brand are more
most likely to commit cash on the brand, show loyalty, advocate it to an individual else, etc.
The worth of the _like_ has been estimated at $174.17 to the firm _liked_.
This figure is about 28 percent higher than it was in 2010 and shows there is monetary value in those very simple
clicks. facebook likes buy singapore; solowattaggio.com,
แล้วเรื่องเป็นไงต่อ
on websites I stumbleupon every day. It will always
be useful to read through articles from other authors and practice a little something from other websites.
from an established blog. Is it very hard to set up
your own blog? I'm not very techincal but I can figure things out pretty fast.
I'm thinking about making my own but I'm not sure where to begin. Do
you have any tips or suggestions? Many thanks